
สารบัญ
การแนะนำ
ในออสเตรเลีย อาหารเสริมกลายมาเป็นส่วนสำคัญในกิจวัตรด้านสุขภาพของผู้คนจำนวนมาก ซึ่งเน้นย้ำถึงความสำคัญของการดูแลสุขภาพและการดูแลส่วนบุคคลที่เพิ่มมากขึ้น การศึกษาล่าสุดโดย Complementary Medicines Australia แสดงให้เห็นว่าชาวออสเตรเลียเกือบ 70% รวมอาหารเสริมบางชนิดไว้ในกิจวัตรประจำวัน โดยมัลติวิตามิน กรดไขมันโอเมก้า 3 และโพรไบโอติกเป็นที่นิยมมากที่สุด
อย่างไรก็ตาม การจะได้รับประโยชน์จากอาหารเสริมเหล่านี้อย่างแท้จริงนั้น การเลือกผลิตภัณฑ์ที่ถูกต้องและปฏิบัติตามคำแนะนำในการใช้ยาเพียงอย่างเดียวนั้นไม่เพียงพอ ช่วงเวลาในการรับประทานอาหารเสริมถือเป็นสิ่งสำคัญต่อประสิทธิภาพของอาหารเสริม อาหารเสริมแต่ละชนิดมีปฏิกิริยากับร่างกายของคุณแตกต่างกัน และเวลาที่เหมาะสมในการรับประทานอาจส่งผลต่อการดูดซึมและการใช้ประโยชน์จากอาหารเสริมได้อย่างมาก
อาหารเสริมบางชนิดจะมีประสิทธิภาพมากกว่าเมื่อรับประทานร่วมกับอาหาร ในขณะที่บางชนิดจะมีประสิทธิภาพมากกว่าเมื่อรับประทานในขณะท้องว่าง นอกจากนี้ ควรรับประทานสารอาหารบางชนิดในตอนเช้า ก่อนนอน หรือร่วมกับการออกกำลังกาย การรับประทานอาหารเสริมให้สอดคล้องกับจังหวะตามธรรมชาติของร่างกายจะช่วยเพิ่มประโยชน์ต่อสุขภาพโดยรวมและทำให้มั่นใจได้ว่าอาหารเสริมแต่ละชนิดจะให้คุณค่าสูงสุด
การกำหนดเวลาอาหารเสริมของคุณเพื่อให้ได้ประสิทธิผลสูงสุด
การเข้าใจว่าควรทานอาหารเสริม เมื่อใด จะช่วยเพิ่มประโยชน์ได้อย่างมาก ด้านล่างนี้เป็นตารางสรุปรายละเอียดอาหารเสริมต่างๆ เวลารับประทานที่เหมาะสม และเหตุผลเบื้องหลังคำแนะนำเหล่านี้
ประเภทอาหารเสริม | ตัวอย่าง | เวลาที่ดีที่สุดที่จะรับประทาน | ทำไม |
---|---|---|---|
วิตามินที่ละลายน้ำได้ | วิตามินซี, บีคอมเพล็กซ์ | เช้าพร้อมหรือไม่พร้อมอาหารมื้อเบา | ดูดซึมเร็ว เพิ่มพลังงานและการเผาผลาญ |
วิตามินที่ละลายในไขมัน | วิตามินเอ ดี อี เค | มื้ออาหารที่มีไขมันดี | ไขมันในอาหารจะช่วยเพิ่มการดูดซึม |
แคลเซียม | แคลเซียมคาร์บอเนต ซิเตรท | มื้อเย็นหรือพร้อมอาหาร (แบ่งรับประทาน) | ขนาดยาที่น้อยลงจะช่วยเพิ่มการดูดซึมและช่วยให้ผ่อนคลาย |
เหล็ก | อาหารเสริมธาตุเหล็ก | เช้า/เที่ยง กับวิตามินซี | วิตามินซีช่วยเพิ่มการดูดซึม หลีกเลี่ยงแคลเซียมและคาเฟอีน |
แมกนีเซียม | แมกนีเซียมไกลซิเนต ออกไซด์ | กลางคืน | ส่งเสริมการผ่อนคลายกล้ามเนื้อและการนอนหลับที่ดีขึ้น |
กรดไขมันโอเมก้า-3 | น้ำมันปลา น้ำมันเมล็ดแฟลกซ์ | ด้วยมื้ออาหารที่มีไขมัน | ไขมันช่วยเพิ่มการดูดซึมและลดรสคาวที่ค้างอยู่ในคอ |
โปรไบโอติกส์ | แลคโตบาซิลลัส บิฟิโดแบคทีเรียม | เช้าตอนท้องว่างหรือตอนกลางคืน | การสร้างอาณานิคมในลำไส้จะดีขึ้นเมื่อระดับกรดในกระเพาะอาหารลดลง |
พรีไบโอติก | อินูลิน, ฟอส | ได้ทุกเวลาพร้อมมื้ออาหาร | ทำงานควบคู่ไปกับอาหารเพื่อเลี้ยงแบคทีเรียชนิดดี |
เวย์โปรตีน | โปรตีนผง | หลังออกกำลังกายหรือตอนเช้า | ดูดซึมได้เร็วเพื่อฟื้นฟูกล้ามเนื้อและเพิ่มพลังงาน |
โปรตีนเคซีน | ผงเคซีน | กลางคืน | การย่อยอาหารช้าจะทำให้กรดอะมิโนถูกหลั่งออกมาอย่างต่อเนื่องในระหว่างการนอนหลับ |
ขมิ้นชัน/เคอร์คูมิน | อาหารเสริมเคอร์คูมิน | พร้อมอาหาร (มื้อเที่ยง/เย็น, พร้อมไขมัน) | การดูดซึมจะดีขึ้นด้วยไขมันในอาหารหรือพริกไทยดำ |
อัชวินธา | สมุนไพรอะพอพโทเจนิก | ตอนเย็นหรือก่อนนอน | ช่วยลดความเครียดและส่งเสริมการนอนหลับ |
ครีเอทีน | ครีเอทีนโมโนไฮเดรต | หลังออกกำลังกายหรือเวลาใดก็ได้พร้อมน้ำ | เวลาต้องมีความยืดหยุ่น ความสม่ำเสมอคือกุญแจสำคัญสู่ประสิทธิผล |
ส่วนผสมก่อนออกกำลังกาย | อาหารเสริมเพิ่มพลังงาน | ก่อนออกกำลังกาย 30 นาที | เพิ่มพลังงาน สมาธิ และประสิทธิภาพการทำงาน |
โนออโทรปิกส์ | แปะก๊วย, โหระพา | เช้าหรือบ่าย | ปรับปรุงสมาธิและความชัดเจนทางจิตใจ |
เมลาโทนิน | เครื่องช่วยการนอนหลับ | 30 นาทีก่อนนอน | ควบคุมวงจรการนอนหลับและปรับปรุงคุณภาพการนอนหลับ |
ข้อผิดพลาดทั่วไปในการรับประทานอาหารเสริม
แม้ว่าคุณจะมีความตั้งใจดีแค่ไหนก็ตาม แต่ก็อาจเกิดข้อผิดพลาดที่ทำให้ประสิทธิภาพของอาหารเสริมลดลงได้ เช่น การจับคู่สารอาหารที่ไม่เข้ากันหรือเวลาที่ไม่สม่ำเสมอ ข้อผิดพลาดเหล่านี้อาจทำลายเป้าหมายด้านสุขภาพของคุณได้ ต่อไปนี้คือข้อผิดพลาดทั่วไปและวิธีหลีกเลี่ยง:
1. การใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารที่ขัดแย้งกัน
-
ข้อผิดพลาด: การรับประทานแคลเซียมและธาตุเหล็กร่วมกัน
- เหตุใดจึงเป็นปัญหา: แคลเซียมสามารถขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็ก ทำให้ประสิทธิภาพของธาตุเหล็กลดลง
- วิธีแก้ไข: แยกอาหารเสริมเหล่านี้ออกห่างกันสัก 2-3 ชั่วโมง หรือทานธาตุเหล็กในตอนเช้าและแคลเซียมในตอนกลางคืน
-
ข้อผิดพลาด: การผสมแมกนีเซียมกับสังกะสีหรือแคลเซียม
- เหตุใดจึงเป็นปัญหา: แร่ธาตุเหล่านี้จะแข่งขันกันในการดูดซึมเมื่อรับประทานร่วมกัน
- วิธีแก้ไข: แบ่งปริมาณการรับประทานแร่ธาตุเหล่านี้เป็นระยะๆ ตลอดทั้งวัน
2. การรับประทานอาหารเสริมในขณะท้องว่างโดยไม่ได้แนะนำ
-
ข้อผิดพลาด: การรับประทานวิตามินที่ละลายในไขมัน (A, D, E, K) โดยไม่ได้รับประทานอาหาร
- เหตุใดจึงเป็นปัญหา: หากไม่มีไขมันจากอาหาร วิตามินเหล่านี้ก็จะไม่ถูกดูดซึมอย่างเหมาะสม
- วิธีแก้ไข: ควรรับประทานวิตามินที่ละลายในไขมันร่วมกับอาหารที่มีไขมันดีเสมอ
-
ข้อผิดพลาด: การใช้โปรไบโอติกร่วมกับเครื่องดื่มร้อน
- เหตุใดจึงเป็นปัญหา: ความร้อนสามารถฆ่าแบคทีเรียที่มีชีวิตในโปรไบโอติกได้
- วิธีแก้ไข: รับประทานโปรไบโอติกกับน้ำเย็นหรือน้ำผลไม้ หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มร้อนทันทีก่อนหรือหลังรับประทาน
3. จังหวะเวลาไม่สม่ำเสมอ
-
ความผิดพลาด: การรับประทานอาหารเสริมอย่างสุ่มเวลา
- เหตุใดจึงเป็นปัญหา: การกำหนดเวลาที่ไม่สม่ำเสมออาจลดการดูดซึมและขัดขวางประโยชน์ที่สม่ำเสมอ
- วิธีแก้ไข: สร้างตารางเวลาที่เหมาะสมกับกิจวัตรประจำวันของคุณและปฏิบัติตามนั้น ตัวอย่างเช่น รับประทานวิตามินในตอนเช้าและแมกนีเซียมในตอนกลางคืน
4. การรับประทานอาหารเสริมมากเกินไป
-
ข้อผิดพลาด: การรับประทานอาหารเสริมมากเกินไปในคราวเดียว
- เหตุใดจึงเป็นปัญหา: ปริมาณสูงอาจส่งผลต่อระบบย่อยอาหารหรือทำให้เกิดผลข้างเคียง เช่น คลื่นไส้
- วิธีแก้ไข: แบ่งรับประทานอาหารเสริมออกเป็นส่วนๆ ในแต่ละมื้อ หรือปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการแพทย์เกี่ยวกับขนาดยาที่เหมาะสม
5. การละเลยปฏิกิริยากับยา
-
ข้อผิดพลาด: การรับประทานอาหารเสริมโดยไม่ได้ตรวจสอบปฏิกิริยาระหว่างกัน
- เหตุใดจึงเป็นปัญหา: อาหารเสริมบางชนิดอาจลดประสิทธิภาพของยาได้ (เช่น เซนต์จอห์นเวิร์ตที่รบกวนการทำงานของยาต้านอาการซึมเศร้า)
- วิธีแก้ไข: ปรึกษาผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพเพื่อให้แน่ใจว่าอาหารเสริมและยาของคุณเข้ากันได้
6. การถือว่า "ธรรมชาติ" หมายถึงปลอดภัยเสมอ
-
ข้อผิดพลาด: การพึ่งพาอาหารเสริม "จากธรรมชาติ" มากเกินไปโดยไม่ได้มีการวิจัยอย่างเหมาะสม
- เหตุใดจึงเป็นปัญหา: แม้แต่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจากธรรมชาติ เช่น สมุนไพร ก็อาจมีผลข้างเคียงหรือปฏิกิริยาต่อกัน
- วิธีแก้ไข: ค้นคว้าและปรึกษากับผู้เชี่ยวชาญก่อนที่จะเพิ่มอาหารเสริมใหม่ๆ เข้าไปในกิจวัตรประจำวันของคุณ
เคล็ดลับปฏิบัติในการสร้างกิจวัตรประจำวัน
การสร้างกิจวัตรการรับประทานอาหารเสริมที่สม่ำเสมอและมีประสิทธิภาพไม่จำเป็นต้องยุ่งยาก ด้วยการรวมอาหารเสริมเข้าไปในชีวิตประจำวันของคุณอย่างมีไตร่ตรองและเป็นระเบียบ คุณสามารถมั่นใจได้ว่าคุณจะได้รับประโยชน์สูงสุดจากอาหารเสริมเหล่านี้ ต่อไปนี้คือเคล็ดลับที่เป็นประโยชน์บางประการที่จะช่วยให้คุณสร้างและรักษากิจวัตรการรับประทานอาหารเสริมได้:
1. กำหนดตารางเวลา
- เหตุใดจึงสำคัญ: ความสม่ำเสมอช่วยให้มั่นใจได้ว่าร่างกายของคุณดูดซับและใช้สารอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
-
วิธีการทำ:
- จับคู่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเข้ากับกิจกรรมประจำวัน เช่น มื้ออาหารหรือเวลาเข้านอน
- ใช้กล่องใส่ยาเพื่อแยกปริมาณยาในตอนเช้า ตอนบ่าย และตอนเย็น
-
📝 ตัวอย่างตารางรายวัน:
- เช้า: ทานวิตามินรวม ธาตุเหล็ก (พร้อมวิตามินซี) และโปรไบโอติก
- ช่วงบ่าย: รับประทานกรดไขมันโอเมก้า 3 พร้อมกับอาหารกลางวัน
- ตอนเย็น: รับประทานแคลเซียม แมกนีเซียม และอัชวินธาพร้อมกับอาหารเย็น
- ก่อนนอน: รับประทานโปรตีนเคซีนและเมลาโทนิน
2. จัดกลุ่มอาหารเสริมที่เข้ากันได้เข้าด้วยกัน
-
ตัวอย่าง:
- รับประทานวิตามินที่ละลายในไขมัน (A, D, E, K) ร่วมกับอาหารที่มีไขมันดี
- จับคู่ผลิตภัณฑ์เสริมธาตุเหล็กกับวิตามินซีเพื่อการดูดซึมที่ดีขึ้น
-
สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง:
- อย่ารับประทานแคลเซียมและธาตุเหล็กในเวลาเดียวกัน เพราะจะไปขัดขวางการดูดซึมซึ่งกันและกัน
3. ใช้เทคโนโลยีเพื่อเตือนความจำ
- เหตุใดจึงสำคัญ: ตารางงานที่ยุ่งอาจทำให้ลืมได้ง่าย
-
วิธีการทำ:
- ตั้งปลุกบนโทรศัพท์หรือสมาร์ทวอทช์ของคุณ
- ใช้แอปสุขภาพเพื่อติดตามการทานอาหารเสริมและรับการแจ้งเตือน
4. เริ่มต้นจากสิ่งเล็ก ๆ และสร้างทีละน้อย
- เหตุใดจึงสำคัญ: การเพิ่มอาหารเสริมมากเกินไปในคราวเดียวอาจทำให้รู้สึกหนักใจและเกิดความไม่สม่ำเสมอ
-
วิธีการทำ:
- เริ่มต้นด้วยอาหารเสริมที่จำเป็นที่สุด และค่อยๆ รวมอาหารเสริมอื่น ๆ เข้าไปในกิจวัตรประจำวันของคุณ
- ตรวจสอบว่าอาหารเสริมแต่ละชนิดส่งผลต่อร่างกายของคุณอย่างไรก่อนที่จะเพิ่มเข้าไป
5. จัดเก็บอาหารเสริมอย่างถูกต้อง
- เหตุใดจึงสำคัญ: การจัดเก็บที่ไม่เหมาะสมอาจลดประสิทธิภาพหรือทำให้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารของคุณเสียหายได้
-
วิธีการทำ:
- เก็บอาหารเสริมไว้ในที่แห้งและเย็นและให้ห่างจากแสงแดด
- ใช้ภาชนะที่ปิดสนิทสำหรับผงหรือแคปซูลเพื่อรักษาความสดใหม่
6. ติดตามความคืบหน้าของคุณ
- เหตุใดจึงสำคัญ: การรู้ว่าอะไรได้ผลจะช่วยปรับปรุงกิจวัตรประจำวันของคุณได้
-
วิธีการทำ:
- จดบันทึกความรู้สึกของคุณหลังจากทานอาหารเสริม
- จดบันทึกการปรับปรุงด้านพลังงาน การนอนหลับ หรือข้อมูลด้านสุขภาพอื่นๆ
7. เพิ่มอาหารเสริมเข้าไปในมื้ออาหารของคุณ
- เหตุใดจึงสำคัญ: การจับคู่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารกับอาหารที่เหมาะสมจะช่วยเพิ่มการดูดซึม
-
วิธีการทำ:
- รับประทานโปรไบโอติกก่อนอาหารเช้าหรือพร้อมกับอาหารมื้อเบา
- รวมโอเมก้า 3 เข้ากับอาหารที่มีไขมันดี เช่น อะโวคาโดหรือถั่ว
ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพ
แม้ว่าอาหารเสริมจะมีบทบาทสำคัญในการเสริมสร้างสุขภาพและความสมบูรณ์ของร่างกาย แต่ก็ไม่ใช่ทางเลือกเดียวที่เหมาะกับทุกคน การปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพจะช่วยให้มั่นใจได้ว่าการใช้อาหารเสริมของคุณปลอดภัย มีประสิทธิผล และเหมาะกับความต้องการเฉพาะของคุณ นี่คือเหตุผลที่คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญมีความสำคัญและวิธีใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด:
1. คำแนะนำส่วนบุคคล
- เหตุใดจึงสำคัญ: ร่างกายของแต่ละคนแตกต่างกัน ปัจจัยต่างๆ เช่น อายุ ไลฟ์สไตล์ ประวัติการรักษา และการรับประทานอาหาร มีอิทธิพลต่อการเลือกอาหารเสริมและปริมาณอาหารเสริมที่คุณต้องการ
-
วิธีการทำ:
- แบ่งปันเป้าหมายด้านสุขภาพของคุณ เช่น การเพิ่มพลังงาน เพิ่มความฟิต หรือจัดการกับภาวะขาดแคลน
- พูดคุยเกี่ยวกับอาหารของคุณในปัจจุบันเพื่อระบุช่องว่างสารอาหารที่อาจเกิดขึ้น
2. การหลีกเลี่ยงการโต้ตอบที่เป็นอันตราย
- เหตุใดจึงสำคัญ: อาหารเสริมอาจโต้ตอบกับยาหรืออาหารเสริมอื่น ซึ่งบางครั้งอาจทำให้ประสิทธิภาพลดลงหรือเกิดผลข้างเคียงได้
-
ตัวอย่างการโต้ตอบ:
- เซนต์จอห์นเวิร์ตสามารถลดประสิทธิภาพของยาบางชนิดได้ เช่น ยาต้านอาการซึมเศร้า
- แคลเซียมอาจขัดขวางการดูดซึมธาตุเหล็กเมื่อรับประทานร่วมกัน
- วิธีการทำ: จัดทำรายการยาและอาหารเสริมที่คุณกำลังรับประทานให้ครบถ้วน
3. ความเข้าใจเกี่ยวกับปริมาณยาที่ปลอดภัย
- เหตุใดจึงสำคัญ: การเสริมวิตามินมากเกินไปอาจนำไปสู่ภาวะพิษหรือปัญหาสุขภาพอื่นๆ เช่น การรับประทานวิตามินดีมากเกินไปอาจทำให้แคลเซียมสะสมจนเกิดปัญหาไต
-
วิธีการทำ:
- สอบถามผู้ให้บริการดูแลสุขภาพของคุณเกี่ยวกับขนาดยาที่เหมาะสมตามอายุ น้ำหนัก และสถานะสุขภาพของคุณ
- ขอตรวจเลือดตามปกติเพื่อตรวจระดับสารอาหาร
4. ข้อควรพิจารณาพิเศษสำหรับกลุ่มบางกลุ่ม
-
เหตุใดจึงสำคัญ: ประชากรกลุ่มเฉพาะมีความต้องการอาหารเสริมที่ไม่เหมือนกัน
- สตรีมีครรภ์: วิตามินก่อนคลอดที่มีกรดโฟลิกเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อป้องกันความพิการแต่กำเนิด
- ผู้สูงอายุ: อาจได้รับประโยชน์จากแคลเซียม วิตามินดี และบี12 เพื่อป้องกันการขาดสารอาหารที่เกี่ยวข้องกับอายุ
- นักกีฬา: มักต้องการคำแนะนำเฉพาะสำหรับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ
- วิธีดำเนินการ: หารือเกี่ยวกับสถานการณ์พิเศษหรือความต้องการใดๆ กับผู้ให้บริการดูแลสุขภาพของคุณเพื่อรับคำแนะนำที่เหมาะสม
5. คำแนะนำสำหรับการใช้งานในระยะยาว
- เหตุใดจึงมีความสำคัญ: อาหารเสริมบางชนิดปลอดภัยสำหรับการใช้เป็นประจำทุกวัน ในขณะที่บางชนิดมีไว้สำหรับการบำรุงร่างกายในระยะสั้น ความต้องการของร่างกายของคุณอาจเปลี่ยนแปลงไปเมื่อเวลาผ่านไป
-
วิธีการทำ:
- กำหนดตารางการตรวจติดตามเป็นระยะกับผู้ให้บริการด้านการรักษาพยาบาลของคุณเพื่อปรับเปลี่ยนกิจวัตรประจำวันของคุณ
- ตรวจสอบว่าอาหารเสริมส่งผลต่อสุขภาพและความเป็นอยู่โดยรวมของคุณอย่างไร
6. สิ่งที่ต้องนำมาปรึกษา
- รายการอาหารเสริมและยาทั้งหมดที่คุณรับประทานในปัจจุบัน
- ข้อมูลเกี่ยวกับการรับประทานอาหารและวิถีชีวิตของคุณ
- ผลการตรวจทางห้องปฏิบัติการหรือบันทึกสุขภาพล่าสุด
บทสรุป
กิจวัตรการรับประทานอาหารเสริมของคุณไม่ใช่แค่การทานแคปซูลเพียงหยิบมือเดียวเท่านั้น แต่ยังเป็นโอกาสในการปรับสุขภาพและความเป็นอยู่ของคุณให้เหมาะสมที่สุด การเข้าใจถึงความสำคัญของเวลา การหลีกเลี่ยงข้อผิดพลาดทั่วไป และการปรับตารางเวลาให้เหมาะกับความต้องการเฉพาะตัวของร่างกาย จะช่วยให้คุณปลดล็อกศักยภาพทั้งหมดของอาหารเสริมของคุณได้
ความสม่ำเสมอเป็นสิ่งสำคัญ แต่ความรู้ก็สำคัญเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการจับคู่ธาตุเหล็กกับวิตามินซี การรับประทานแมกนีเซียมก่อนนอน หรือการปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพเพื่อขอคำแนะนำเฉพาะบุคคล การปรับเปลี่ยนเล็กๆ น้อยๆ ก็สามารถนำมาซึ่งประโยชน์ที่สำคัญได้ อาหารเสริมเป็นเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพเมื่อใช้ด้วยความรอบคอบ โดยช่วยเพิ่มทุกอย่างตั้งแต่ระดับพลังงานไปจนถึงคุณภาพการนอนหลับและความมีชีวิตชีวาโดยรวม
โปรดจำไว้ว่าทุกคนต่างกัน การฟังร่างกายของคุณ คอยติดตามข้อมูล และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยให้คุณสร้างกิจวัตรการเสริมอาหารที่เหมาะกับคุณอย่างแท้จริงได้ เริ่มต้นตั้งแต่วันนี้ และยกระดับสุขภาพของคุณให้สูงขึ้นด้วยปริมาณที่เหมาะสมในแต่ละครั้ง
การปฏิเสธความรับผิดชอบ
ข้อมูลในบทความนี้มีไว้เพื่อวัตถุประสงค์ในการให้ข้อมูลทั่วไปเท่านั้น และไม่มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นคำแนะนำทางการแพทย์ ควรปรึกษาผู้เชี่ยวชาญด้านการดูแลสุขภาพหรือแพทย์ผู้มีคุณสมบัติก่อนเริ่มใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารชนิดใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณกำลังตั้งครรภ์ ให้นมบุตร มีอาการป่วย หรือรับประทานยา
แม้ว่าเราจะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อให้แน่ใจว่าข้อมูลมีความถูกต้อง แต่เราไม่รับประกันว่าข้อมูลจะครบถ้วนสมบูรณ์หรือใช้ได้กับสถานการณ์ของคุณ ควรใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอย่างมีความรับผิดชอบ และผลลัพธ์อาจแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับสุขภาพส่วนบุคคล ไลฟ์สไตล์ และปัจจัยอื่นๆ
อ้างอิง
- บทบาทของจังหวะเวลาของสารอาหารต่อประสิทธิผลของอาหารเสริม วารสารโภชนาการการออกกำลังกายและชีวเคมี (2016)
- เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับการดูดซึมวิตามิน . Medical News Today (2018)
- ปัจจัยที่มีผลต่อการดูดซึมและการดูดซึมของอาหารเสริม สารอาหาร (2020).
- ภาคผนวก: A scorecard . Harvard Health Publishing (nd).
- วิตามินและแร่ธาตุ . Better Health Channel (nd).
- การดูดซึมวิตามินที่ละลายน้ำในลำไส้ในด้านสุขภาพและโรคต่างๆ สถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH, 2014)
- คุณได้รับสารอาหารที่จำเป็นจากอาหารของคุณหรือไม่? สถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH, nd)
- เวลาในการรับสารอาหาร: กุญแจสำคัญสู่ประสิทธิภาพ สมาคมโภชนาการกีฬานานาชาติ (2013)
- แมกนีเซียมและการนอนหลับ มูลนิธิการนอนหลับ (nd)
- อาหารเสริมวิตามินและแร่ธาตุ: เรื่องที่ควรรู้ Better Health Channel (nd)
- การผสมยาและอาหารเสริมอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณ สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาแห่งสหรัฐอเมริกา (FDA, nd)
- ยาและอาหารเสริมอาจมีปฏิกิริยาต่อกันอย่างไร ศูนย์แห่งชาติเพื่อสุขภาพเชิงเสริมและบูรณาการ (NCCIH, nd)
- สิ่งที่คุณต้องรู้เกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร สำนักงานอาหารเสริม (ODS) สถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH, nd)
- โภชนาการและอาหารเสริม . สถาบันกีฬาออสเตรเลีย (AIS, nd)
- อาหารเสริม . Health Direct Australia (nd).
- ยาเสริม . Therapeutic Goods Administration (TGA), ออสเตรเลีย (nd)
- ตารางเงินอุดหนุนและเงินเสริมสำหรับการดูแลผู้สูงอายุ . กระทรวงสาธารณสุขของรัฐบาลออสเตรเลีย (nd)